เคยสงสัยไหมว่า เราควรล้างแผ่นกรองแอร์บ่อยแค่ไหน ถึงจะพอดี? หลายคนล้างบ่อยเพราะกลัวฝุ่น แต่บางคนก็แทบไม่เคยล้างเลย ปล่อยให้ช่างมาจัดการเฉพาะตอนเรียกล้างแอร์ ประจำปี ความจริงแล้ว “ความถี่ในการล้าง” มีผลต่อทั้งประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศ ค่าไฟ และสุขภาพของคนในบ้านอย่างมาก
บทความนี้จะพาคุณมาหาคำตอบว่าควรล้างแผ่นกรองแอร์กี่ครั้งถึงจะเหมาะสม พร้อมคู่มือการล้างแผ่นกรองแอร์ด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ เพื่อให้แอร์เย็นสะอาด บ้านสดชื่น และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
แผ่นกรองแอร์คืออะไร?
แผ่นกรองแอร์ (Air Filter) คือแผ่นพลาสติกตาข่ายที่ออกแบบมาเพื่อดักจับฝุ่นละออง ขนสัตว์เลี้ยง เกสรดอกไม้ และสิ่งสกปรกขนาดเล็กก่อนที่อากาศจะไหลเข้าสู่ระบบทำความเย็น ทำให้ลมที่เป่าออกมาสะอาดขึ้น
แม้จะเป็นเพียงชิ้นส่วนเล็ก ๆ แต่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะหากปล่อยให้เต็มไปด้วยฝุ่น จะทำให้แอร์ทำงานหนัก กินไฟ และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพผู้ใช้งาน
แผ่นกรองแอร์อยู่ตรงไหน?
โดยทั่วไป แผ่นกรองแอร์จะอยู่หลังฝาครอบด้านหน้าเครื่องปรับอากาศ (คอยล์เย็น)
- เพียงแค่ยกฝาครอบขึ้น ก็จะเห็นแผ่นกรองขนาดพอดีช่องวาง
- ส่วนใหญ่เป็นพลาสติกสีดำหรือตาข่ายใส ขึ้นอยู่กับรุ่นของแอร์
- สามารถถอดออกมาล้างด้วยน้ำสะอาดได้ง่าย ไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ
พูดง่าย ๆ คือ ถ้าคุณเปิดฝาหน้าแอร์ แผ่นกรองจะอยู่ชั้นแรกก่อนถึงคอยล์เย็นนั่นเอง
ทำไมการล้างแผ่นกรองแอร์ถึงสำคัญ?
- ช่วยให้แอร์ทำงานเต็มประสิทธิภาพ เมื่อแผ่นกรองเต็มไปด้วยฝุ่น ลมจะไหลผ่านได้ยาก ทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้เย็นช้าลงและสิ้นเปลืองไฟ
- ลดฝุ่น เชื้อรา และสารก่อภูมิแพ้ แผ่นกรองที่สกปรกคือแหล่งสะสมฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรีย ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการไอ จาม หรือโรคทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุ
- ประหยัดค่าไฟ แอร์ที่สะอาดกินไฟน้อยกว่าเครื่องที่มีแผ่นกรองอุดตัน การล้างแผ่นกรองแอร์จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้จริง
- ยืดอายุการใช้งานเครื่องปรับอากาศ การดูแลเล็ก ๆ อย่างสม่ำเสมอ ช่วยป้องกันปัญหาใหญ่ เช่น คอยล์เย็นตัน น้ำรั่ว หรือแอร์ไม่เย็น
ควรล้างแผ่นกรองแอร์กี่ครั้งถึงจะเหมาะสม?
ความถี่ในการล้างขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการใช้งาน
- ทุก 2 สัปดาห์ สำหรับบ้านที่อยู่ติดถนนใหญ่ มีฝุ่นมาก หรือมีสัตว์เลี้ยง
- ทุก 3–4 สัปดาห์ สำหรับบ้านทั่วไปที่ใช้แอร์ทุกวัน
- ทุก 1–2 เดือน สำหรับคอนโดหรือออฟฟิศที่ใช้แอร์ในเวลาจำกัด
- ทันทีที่เห็นฝุ่นหนา แม้จะไม่ถึงรอบก็ควรถอดมาล้าง
นอกจากนี้ ยังควรเรียกช่างล้างแอร์แบบเชิงลึก (Deep Cleaning) อย่างน้อยปีละ 1–2 ครั้ง เพื่อทำความสะอาดคอยล์เย็น ท่อน้ำ และพัดลมภายในที่เราล้างเองไม่ได้
วิธีล้างแผ่นกรองแอร์ด้วยตัวเอง
ขั้นตอนง่าย ๆ ที่ทำได้ที่บ้าน
- ปิดเครื่องและถอดปลั๊ก เพื่อความปลอดภัยทุกครั้งก่อนทำความสะอาด
- เปิดฝาครอบหน้าแอร์ ยกขึ้นจะพบแผ่นกรองอยู่ด้านใน
- ถอดแผ่นกรองออกมาอย่างเบามือ จับตรงกรอบพลาสติก ไม่บิดงอ
- ล้างด้วยน้ำสะอาด ใช้สายยางฉีดน้ำหรือน้ำก๊อกล้างฝุ่น ไม่จำเป็นต้องใช้ผงซักฟอก ยกเว้นมีคราบมันหรือเชื้อรา
- เขย่าเบา ๆ และตากในที่ร่ม ตากในที่มีลมผ่าน หลีกเลี่ยงแดดจัดที่อาจทำให้พลาสติกกรอบแตก
- ใส่กลับเข้าที่ ตรวจสอบให้แน่นหนา ปิดฝาครอบให้สนิท
เคล็ดลับการดูแลเพิ่ม
- หากบ้านมีคนเป็นภูมิแพ้ แนะนำล้างทุก 2 สัปดาห์
- ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดฝุ่นเบื้องต้นได้ แต่การล้างน้ำยังสะอาดกว่า
- อย่าลืมตรวจสอบกลิ่นแอร์ หากเริ่มมีกลิ่นอับ ควรเรียกช่างล้างแอร์ทันที
คำถามที่พบบ่อย
Q: ถ้าไม่ล้างแผ่นกรองแอร์เลยจะเกิดอะไรขึ้น?
A: แอร์จะไม่เย็น มีกลิ่นอับ กินไฟ และเสี่ยงต่อโรคทางเดินหายใจจากฝุ่นสะสม
Q: ล้างเองกับเรียกช่างต่างกันอย่างไร?
A: การล้างเองทำได้เฉพาะแผ่นกรอง แต่ช่างจะล้างทั้งระบบ ทำความสะอาดคอยล์ พัดลม และตรวจสอบการทำงานโดยรวม
Q: ใช้น้ำยาล้างแอร์ฉีดที่แผ่นกรองได้หรือไม่?
A: ไม่แนะนำ ควรใช้น้ำสะอาดเพียงพอ หากมีคราบเชื้อราจึงใช้น้ำสบู่อ่อน ๆ แทน
Q: บ้านที่มีเด็กเล็กควรล้างบ่อยแค่ไหน?
A: แนะนำทุก 2 สัปดาห์ เพื่อให้อากาศสะอาด ลดฝุ่นและเชื้อโรค
การล้างแผ่นกรองแอร์เป็นงานเล็ก ๆ ที่ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที แต่ช่วยให้แอร์ทำงานเต็มประสิทธิภาพ ประหยัดไฟ และลดปัญหาสุขภาพ การล้างเป็นประจำทุก 2–4 สัปดาห์ พร้อมเรียกช่างล้างแอร์ แบบลึกปีละ 1–2 ครั้ง คือวิธีดูแลที่สมดุลที่สุดสำหรับทุกบ้าน
หากคุณต้องการให้แอร์สะอาดลึกหมดจด ไม่ใช่แค่ล้างแผ่นกรอง รักช่างเรามีทีมงานมืออาชีพพร้อมบริการล้างแอร์ถึงบ้าน ด้วยเครื่องมือมาตรฐาน ตรวจเช็กการทำงาน ป้องกันปัญหาแอร์ไม่เย็นหรือกินไฟเกินจำเป็น
ติดต่อรักช่าง เพื่อจองคิวล้างแอร์วันนี้ ให้บ้านคุณเย็นสะอาด อากาศสดชื่น และปลอดภัยต่อสุขภาพ
ช่องทางการติดต่อ
เบอร์ : 02-096-6220
Line ID : @rak-chang
Facebook : Rak-Chang รักช่าง ล้างแอร์ (แอร์เซอร์วิส)