เครื่องซักผ้าที่คุณใช้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นฝาหน้าหรือฝาบน ล้วนสะสมคราบสกปรก แบคทีเรีย และเชื้อราจากสิ่้งสกปรกที่ติดมากับผ้าและผงซักฟอก คราบผ้า และความชื้นอย่างไม่รู้ตัว เมื่อใช้ไปนานๆ เครื่องจะเริ่มส่งกลิ่นอับ ซักผ้าไม่สะอาด หรือเกิดคราบดำเกาะบนเสื้อผ้า หากคุณอยากให้เครื่องซักผ้าใช้งานได้นาน ซักได้สะอาดจริง และหมดปัญหากลิ่นอับกวนใจ
ทำไมต้องล้างเครื่องซักผ้าเป็นประจำ?
หลายคนอาจมองว่าแค่ซักผ้าเสร็จแล้วเปิดฝาทิ้งไว้ให้แห้งก็พอ แต่รู้ไหมว่าเครื่องซักผ้าคือแหล่งสะสมเชื้อโรค แบคทีเรีย และเชื้อรา ที่เกิดจากคราบผงซักฟอก ขี้ผงฝุ่น เส้นใยผ้าและความชื้นที่คงค้างอยู่ในถังซัก โดยเฉพาะในเครื่องซักผ้าฝาหน้า ที่มีซีลยางและซอกเล็กๆ มากมายซึ่งมักมองไม่เห็น สิ่งสกปรกเหล่านี้เมื่อสะสมมากขึ้น จะส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น
- กลิ่นอับติดผ้า แม้ใช้ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มก็เอาไม่อยู่
- เสื้อผ้าออกมาเป็นคราบดำ หรือมีเศษสิ่งสกปรกติด
- เครื่องซักเสียงดัง หรือสั่นผิดปกติจากคราบตะกอนภายใน
- อายุการใช้งานของเครื่องสั้นลงเพราะระบบทำงานหนักขึ้น
เพื่อสุขอนามัยที่ดีของครอบครัว และยืดอายุการใช้งานเครื่องซักผ้า ควรล้างเครื่องซักผ้าอย่างน้อยทุก 3–6 เดือน และอย่างน้อยปีละครั้งควรให้ช่างมืออาชีพมาล้างบ้าง
วิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้า
เครื่องซักผ้าฝาหน้าแม้จะประหยัดน้ำและซักผ้าสะอาดกว่า แต่ก็มีจุดซ่อนคราบสกปรกมากมาย โดยเฉพาะซีลยางรอบฝาและท่อระบายน้ำ ขั้นตอนที่แนะนำคือ
- ทำความสะอาดซีลยางรอบประตู ใช้ผ้าชุบน้ำผสมน้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดตามร่องยางให้ทั่ว แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำ
- ใช้โปรแกรมทำความสะอาดถัง (Drum Clean) เติมน้ำส้มสายชู 1–2 ถ้วย และเบกกิ้งโซดาประมาณครึ่งถ้วยลงในช่องใส่ผงซักฟอก เปิดโปรแกรมล้างถัง ทิ้งไว้ให้เครื่องหมุนจนจบโปรแกรม
- เช็ดให้แห้งและเปิดฝาทิ้งไว้ เพื่อลดความชื้นและป้องกันเชื้อรา
เคล็ดลับ: หากสกปรกมากหรือมีกลิ่นรุนแรง ควรเรียกช่างมาล้าง เพราะต้องถอดถังออกมาทำความสะอาดด้านในทั้งหมด
วิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาบน
เครื่องซักผ้าฝาบนมักดูแลง่ายกว่า แต่ภายในถังซักและท่อก็ซ่อนคราบมากมาย วิธีล้างเบื้องต้นมีดังนี้:
- เติมน้ำให้เต็มถัง ใส่น้ำยาล้างถังซักหรือน้ำส้มสายชูประมาณ 2–4 ถ้วยตวง
- เปิดเครื่องให้หมุนประมาณ 10–15 นาที แล้วแช่ทิ้งไว้อีก 30–60 นาที
- ปล่อยน้ำทิ้ง ขัดถังด้านในด้วยแปรงนุ่ม
- เปิดน้ำล้างอีก 1 รอบ แล้วใช้ผ้าเช็ดขอบฝาและช่องผงซักฟอกให้สะอาด
ข้อควรระวัง: สำหรับคราบตะกอนหนาแน่นหรือปัญหาท่อระบายตัน ควรเรียกบริการรับล้างเครื่องซักผ้าถึงบ้านเพื่อถอดล้างและตรวจสอบระบบภายใน
ข้อควรระวังเมื่อล้างเครื่องซักผ้าเอง
แม้การล้างเองจะช่วยประหยัด แต่หากไม่ระวังอาจทำให้เครื่องเสียหาย หรือสะอาดไม่จริง ควรระวังเรื่องเหล่านี้
- ซีลยางเสื่อมเร็วและพลาสติกกรอบแตก เนื่องจากสารเคมีแรงเกินไป
- น้ำล้นหรือท่ออุดตัน หากเติมน้ำ/น้ำยามากเกินไป
- เสี่ยงเครื่องพังหรือประกอบกลับผิด เนื่องจากถอดเครื่องเองโดยไม่ชำนาญ
- เชื้อรากลับมาเร็ว หลังล้างไม่เช็ดแห้งอย่างถูกวิธี
ข้อดีของการใช้บริการรับล้างเครื่องซักผ้าถึงบ้านกับรักช่าง
การล้างเครื่องซักผ้าเองอาจช่วยได้เพียงในระดับหนึ่ง แต่ความสะอาดล้ำลึกถึงทุกซอกมุมยังคงต้องอาศัยมืออาชีพ หากคุณกำลังมองหาบริการล้างเครื่องซักผ้าใกล้ฉัน ที่ไว้ใจได้ รักช่าง คือทางเลือกที่คุ้มค่า เพราะเรามีอุปกรณ์เฉพาะทางและทีมช่างที่มีประสบการณ์ พร้อมดูแลเครื่องของคุณอย่างดีที่สุด
- เครื่องสะอาดเหมือนใหม่ กลิ่นอับหายไป
- ล้างลึกถึงถังใน ท่อ และจุดที่ล้างเองไม่ถึง
- ตรวจเช็กสภาพเครื่อง ช่วยป้องกันปัญหาก่อนลุกลาม
- สะดวกสบาย เพราะทีมงานรักช่างให้บริการถึงบ้าน ไม่ต้องขนเครื่องไปไหน
เราเข้าใจดีว่าความสะดวกและสุขอนามัยในบ้านสำคัญเพียงใด ให้เราดูแลเครื่องซักผ้าของคุณอย่างใส่ใจ เหมือนเป็นเครื่องของเราเอง
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับการล้างเครื่องซักผ้า
Q: ควรล้างเครื่องซักผ้าบ่อยแค่ไหน?
A: ทุก 3–6 เดือนสำหรับล้างเบื้องต้น และทุก 12 เดือนควรล้างเชิงลึกโดยช่าง
Q: ล้างเองกับเรียกช่างต่างกันแค่ไหน?
A: ล้างเองได้แค่ผิวถังด้านใน แต่คราบระหว่างถังใน-ถังนอกต้องถอดจึงล้างได้หมด
Q: บริการรับล้างเครื่องซักผ้าถึงบ้านราคาเท่าไร?
A: เริ่มต้นประมาณ 1,500-3,000 บาท แล้วแต่รุ่นและอาการของเครื่อง
ช่องทางการติดต่อ
เบอร์ : 02-096-6220
Line ID : @rak-chang
Facebook : Rak-Chang รักช่าง ล้างแอร์ (แอร์เซอร์วิส)