หลายคนอาจกำลังคิดจะ “ย้ายแอร์” ไปห้องใหม่ เพราะย้ายบ้าน รีโนเวท หรือจัดห้องใหม่ให้เหมาะกับการใช้งาน แต่ก็ติดคำถามในใจว่า ย้ายแอร์คุ้มไหม? ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่? ต้องซื้อของใหม่ไหม? จริง ๆ แล้วการย้ายแอร์ไม่ใช่แค่ “ถอดแล้วติด” แต่ต้องอาศัยความเข้าใจในระบบทำความเย็น การเดินท่อ และการติดตั้งใหม่ที่ถูกวิธี เพื่อไม่ให้ประสิทธิภาพลดลงหรือแอร์เสียหายหลังย้าย
บทความนี้จะพาคุณมาดูรายละเอียดทั้งหมด ทั้งเรื่อง ค่าใช้จ่าย การประเมินความคุ้มค่า และข้อควรระวังก่อนย้ายแอร์ โดยมีข้อมูลจากประสบการณ์ช่างแอร์มืออาชีพ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
ทำไมหลายคนเลือก “ ย้ายแอร์” แทนการซื้อใหม่
สาเหตุหลักที่เจ้าของบ้านหรือคอนโดเลือกย้ายแอร์แทนซื้อใหม่ มักมีดังนี้
- เครื่องยังใหม่ ใช้งานดีอยู่ — อายุไม่เกิน 5 ปี ไม่มีปัญหาการทำความเย็น
- ย้ายบ้าน/คอนโดใหม่ — อยากนำเครื่องไปใช้ต่อที่บ้านใหม่
- ปรับผังห้อง/รีโนเวท — ต้องย้ายตำแหน่งให้เหมาะกับการจัดเฟอร์นิเจอร์
- ประหยัดค่าใช้จ่าย — ซื้อใหม่อาจใช้เงินหลักหมื่น ในขณะที่ย้ายแอร์พร้อมติดตั้งราคาเพียงไม่กี่พัน
แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น สภาพเครื่องเดิม ความคุ้มค่า และความพร้อมของพื้นที่ใหม่ ว่าสามารถรองรับการติดตั้งได้หรือไม่
ขั้นตอนการย้ายแอร์อย่างมืออาชีพ
- ประเมินหน้างาน ก่อนเริ่มถอดแอร์ ช่างจะเข้ามาดูสภาพหน้างานทั้งจุดเก่าและจุดใหม่ เช่น ความสูงของฝ้า ทิศทางลม ตำแหน่งคอมเพรสเซอร์ เพื่อวางแผนเดินท่อและสายไฟใหม่ให้เหมาะสม
- เก็บน้ำยาแอร์ (Refrigerant Recovery) เป็นขั้นตอนสำคัญมาก ช่างจะทำการ “ปิดวาล์ว” และ “เก็บน้ำยาแอร์” กลับเข้าคอมเพรสเซอร์ เพื่อไม่ให้สูญหายระหว่างถอด ซึ่งหากข้ามขั้นตอนนี้ น้ำยาอาจรั่วและต้องเติมใหม่ เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
- ถอดคอยล์เย็นและคอมเพรสเซอร์ ใช้เครื่องมือเฉพาะในการถอด โดยต้องระวังไม่ให้ท่อทองแดงงอหรือแตก เพราะอาจเกิดการรั่วซึมเมื่อประกอบใหม่
- เคลื่อนย้ายและติดตั้งที่จุดใหม่ เมื่อถึงห้องใหม่ ช่างจะวัดระยะใหม่ ติดตั้งคอยล์เย็นบนผนังและคอมเพรสเซอร์นอกอาคาร เดินท่อทองแดง ท่อน้ำทิ้ง และสายไฟใหม่ให้ได้ระยะมาตรฐาน
- เติมน้ำยาและทดสอบระบบ หลังติดตั้งครบ ช่างจะทำการดูดอากาศออกจากระบบ (Vacuum) ก่อนเติมน้ำยาแอร์ให้พอดี แล้วเปิดเครื่องทดสอบความเย็น ตรวจสอบแรงดัน และรอยรั่วให้เรียบร้อย
ย้ายแอร์ราคาเท่าไหร่
สิ่งที่หลายคนสนใจมากที่สุดเมื่อคิดจะ “ย้ายแอร์” คือเรื่องของ ราคา ซึ่งจริง ๆ แล้วค่าใช้จ่ายไม่ได้ตายตัว เพราะจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
- ขนาด BTU ของแอร์ (ยิ่งขนาดใหญ่ งานยิ่งใช้เวลาและอุปกรณ์มากขึ้น)
- ระยะทางหน้างาน ระหว่างจุดเดิมกับจุดติดตั้งใหม่
- ความซับซ้อนของพื้นที่ติดตั้ง เช่น มีฝ้า ต้องรื้อผนัง หรืออยู่ชั้นสูง
- อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม เช่น การเดินท่อทองแดงใหม่ สายไฟ หรือท่อน้ำทิ้ง
โดยบริการ ย้ายแอร์พร้อมติดตั้งจาก “รักช่าง” มีราคาที่โปร่งใสและคุ้มค่า เหมาะกับทั้งบ้าน คอนโด และสำนักงาน ดังนี้
| ประเภทงาน | ราคาเริ่มต้น (บาท) | รายละเอียดโปรโมชั่น |
| แอร์ติดผนัง ขนาดไม่เกิน 15,000 BTU | เริ่มต้น 3,500 บาท | ฟรี! ท่อน้ำยาแอร์ 4 เมตร + รางครอบท่อ 4 เมตร + สายไฟ 10 เมตร + ยางรอง 1 คู่ |
| แอร์ติดผนัง ขนาด 15,001 BTU ขึ้นไป | เริ่มต้น 4,500 บาท | ฟรี! ท่อน้ำยาแอร์ 4 เมตร + รางครอบท่อ 4 เมตร + สายไฟ 10 เมตร + ยางรอง 1 คู่ |
หมายเหตุ: ราคาดังกล่าวเป็นราคาประเมินเบื้องต้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับหน้างานจริง เช่น ระยะเดินท่อ ความสูงของอาคาร หรือตำแหน่งติดตั้งที่เข้าถึงยาก โดยสามารถ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่เพื่อประเมินราคาอย่างแม่นยำก่อนเริ่มงานได้เลย
ปัจจัยที่มีผลต่อราคา “ย้ายแอร์”
- ระยะท่อใหม่ — ยิ่งต้องเดินท่อทองแดงยาวเท่าไร ราคายิ่งเพิ่ม เพราะต้องใช้วัสดุและแรงงานมากขึ้น
- ชนิดของแอร์ — แอร์แบบติดผนังกับแบบแขวนเพดานหรือ 4 ทิศทางมีขั้นตอนแตกต่างกันมาก
- สภาพเครื่องเดิม — ถ้ามีการรั่วหรือคอมเพรสเซอร์ชำรุด ต้องซ่อมหรือเติมน้ำยาเพิ่ม
- ตำแหน่งติดตั้งใหม่ — หากเป็นคอนโดสูงหรือมีข้อจำกัดในการติดตั้งภายนอก ราคาจะสูงกว่า
- บริการเสริม — เช่น ย้ายปลั๊กไฟ, เดินสายไฟใหม่, ทำฝ้าปิดรอยเก่า, หรือเจาะผนังเสริมโครง
ย้ายแอร์เองได้ไหม?
แม้ดูเหมือนเป็นงานง่าย แต่ความจริงแล้ว “ไม่แนะนำให้ย้ายแอร์เอง” เพราะต้องมีเครื่องมือเฉพาะ เช่น ปั๊ม Vacuum, เกจวัดแรงดัน, เครื่องเก็บน้ำยา และอุปกรณ์ Safety หากถอดผิดขั้นตอน อาจทำให้
- ท่อทองแดงแตก
- น้ำยาแอร์รั่ว
- ระบบไฟฟ้าช็อต
- คอมเพรสเซอร์พัง
จึงควรจ้าง ช่างแอร์มืออาชีพ ที่มีประสบการณ์ เพราะนอกจากปลอดภัยแล้ว ยังมีการรับประกันหลังการติดตั้งอีกด้วย
เปรียบเทียบ “ย้ายแอร์” กับ “ซื้อแอร์ใหม่” แบบไหนคุ้มกว่า?
| รายการ | ย้ายแอร์ | ซื้อใหม่ |
| ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น | 1,500–3,000 บาท | 10,000–25,000 บาท |
| ความเย็น/ประสิทธิภาพ | เท่าเดิม หากล้างและติดตั้งดี | ดีขึ้น (ถ้าเป็นรุ่นใหม่ประหยัดไฟ) |
| ความเสี่ยงเสียหาย | ขึ้นอยู่กับการถอด-ติดตั้ง | น้อยมาก |
| อายุการใช้งานต่อเนื่อง | 3–5 ปี (หากเครื่องเก่าไม่เกิน 5 ปี) | 7–10 ปี |
| เหมาะกับใคร | ผู้ที่แอร์ยังดี อยากประหยัดงบ | ผู้ที่แอร์เก่าหรือประสิทธิภาพตกมาก |
สรุป: ถ้าแอร์ยังไม่เกิน 5 ปี และเย็นปกติ การย้ายแอร์ถือว่าคุ้มค่า แต่หากเครื่องเริ่มมีเสียงดัง เย็นไม่สม่ำเสมอ หรือซ่อมบ่อย การซื้อใหม่จะคุ้มระยะยาวกว่า
เคล็ดลับดูแลหลังย้ายแอร์
- ล้างแอร์ทันทีหลังติดตั้งใหม่ เพื่อขจัดฝุ่นและคราบน้ำมันจากการเคลื่อนย้าย
- ตรวจสอบแรงดันน้ำยาแอร์ ให้พอดีกับขนาด BTU
- เช็กการไหลของน้ำทิ้ง ไม่ให้มีการอุดตัน
- อย่าติดตั้งใกล้แหล่งความร้อนหรือแดดจัด เพราะจะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนัก
- เรียกช่างตรวจเช็กประจำปี เพื่อรักษาความเย็นและยืดอายุเครื่อง
คำถามที่พบบ่อย
Q1: ย้ายแอร์ใช้เวลานานแค่ไหน? โดยทั่วไป ประมาณ 3–5 ชั่วโมงต่อเครื่อง ขึ้นอยู่กับระยะทางและความยากของหน้างาน
Q2: ต้องเติมน้ำยาใหม่ทุกครั้งที่ย้ายไหม? ไม่จำเป็น หากช่างเก็บน้ำยาได้ครบและระบบไม่รั่ว แต่ถ้ามีรอยรั่วหรือต้องเดินท่อใหม่เกิน 5 เมตร ควรเติมเพิ่มเพื่อให้ความเย็นเต็มประสิทธิภาพ
Q3: ย้ายแอร์แล้วไม่เย็นเหมือนเดิมเกิดจากอะไร? อาจเกิดจากน้ำยาไม่พอ คอยล์สกปรก หรือการเดินท่อผิดระยะ แนะนำให้เรียกช่างตรวจสอบทันที
สรุปย้ายแอร์ไปห้องใหม่ คุ้มไหม?
คำตอบคือ “คุ้ม” ถ้าเครื่องยังอยู่ในสภาพดี อายุไม่เกิน 5 ปี และเลือกใช้บริการช่างมืออาชีพ เพราะจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าซื้อใหม่หลายเท่า ทั้งยังสามารถยืดอายุการใช้งานออกไปได้อีกหลายปี
หากคุณกำลังมองหาช่าง ย้ายแอร์ พร้อมติดตั้ง ในราคาคุ้มค่า ปลอดภัย และมีการรับประกันผลงาน แนะนำบริการจาก Rak-Chang (รักช่าง) ทีมช่างแอร์มืออาชีพที่มีประสบการณ์ย้ายแอร์ทุกประเภท ทั้งบ้าน คอนโด และอาคารสำนักงาน พร้อมให้คำปรึกษาฟรีก่อนเริ่มงานจริง และบริการตรวจเช็กหน้างานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ช่องทางการติดต่อ
เบอร์ : 02-096-6220
Line ID : @rak-chang
Facebook : Rak-Chang รักช่าง ล้างแอร์ (แอร์เซอร์วิส)


