หลายคนอาจสงสัยว่า “ติดตั้งแอร์บ้านเองได้ไหม?” คำตอบคือ ทำได้ในระดับหนึ่ง หากมีความเข้าใจพื้นฐานและเครื่องมือครบ แต่หากขาดความรู้เรื่องระบบไฟฟ้า หรืออุปกรณ์เฉพาะทาง การติดตั้งเองอาจเสี่ยงทั้งต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของแอร์
บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจ ขั้นตอนการติดตั้งแอร์บ้านด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ ตั้งแต่เตรียมอุปกรณ์ ไปจนถึงการตรวจสอบหลังติดตั้ง พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าควรลงมือเองหรือเรียกช่างมืออาชีพจะดีกว่า
การเตรียมความพร้อมก่อนติดตั้งแอร์บ้าน
อุปกรณ์ที่ควรเตรียม
ก่อนเริ่มติดตั้งแอร์ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีอุปกรณ์เหล่านี้ครบถ้วน:
- ชุดสว่านไฟฟ้า
- ประแจและไขควง
- ท่อทองแดงและฉนวนหุ้ม
- ท่อน้ำทิ้ง
- สายไฟมาตรฐาน
- เครื่องดูดสุญญากาศ (Vacuum Pump)
- ระดับน้ำและตลับเมตร
การมีเครื่องมือที่ถูกต้องจะช่วยให้การติดตั้งเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีมาตรฐาน
ขั้นตอนการติดตั้งแอร์บ้านด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ
- เลือกตำแหน่งติดตั้งแอร์
ตำแหน่งที่ดีควรมีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่โดนแสงแดดโดยตรง และอยู่ห่างจากแหล่งความร้อน เช่น เตาไฟหรือเตาอบ เพื่อให้แอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ สำหรับคอยล์ร้อน (Outdoor Unit) ควรวางในที่มีช่องระบายอากาศและไม่ใกล้แหล่งน้ำ - ติดตั้งแผ่นแขวนคอยล์เย็น
ใช้ระดับน้ำวัดให้แน่ใจว่าแผ่นแขวนอยู่ในแนวระนาบ เพื่อป้องกันน้ำหยดหรือการรั่วซึมของท่อ จากนั้นทำการเจาะผนังเพื่อเดินท่อทองแดงและสายไฟออกไปยังตำแหน่งคอยล์ร้อน - เดินสายท่อและสายไฟ
ต่อท่อทองแดงเข้ากับคอยล์เย็นโดยใช้ฟลอร์เรนซ์และฉนวนพันแน่นหนา จากนั้นเดินท่อออกไปยังคอยล์ร้อน และเชื่อมต่อสายไฟตามสีให้ตรงตำแหน่ง (L, N, Ground) เพื่อความปลอดภัย - ติดตั้งคอยล์ร้อน
วางคอยล์ร้อนในพื้นที่ที่แข็งแรง ไม่สั่นสะเทือน และไม่โดนแดดโดยตรง ใช้ขาตั้งแอร์หรือแขวนยึดกับผนังให้มั่นคง พร้อมต่อท่อทองแดงและท่อน้ำทิ้งเข้ากับคอยล์ร้อนให้แน่นหนา - ดูดอากาศออกจากระบบ (Vacuum)
ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะจะช่วยไล่อากาศและความชื้นออกจากระบบแอร์ ใช้เครื่องดูดสุญญากาศต่อเข้ากับวาล์วและเปิดดูดอากาศประมาณ 15–20 นาที จากนั้นปิดวาล์วให้สนิท - ทดสอบการทำงาน
เปิดเบรกเกอร์และทดสอบเปิดแอร์ ตรวจเช็กความเย็น การรั่วซึมของน้ำ และเสียงการทำงาน หากทุกอย่างเป็นปกติ ถือว่าการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์
ข้อควรระวังในการติดตั้งแอร์เอง
แม้ขั้นตอนดูไม่ยาก แต่การติดตั้งแอร์ด้วยตัวเองมีความเสี่ยง เช่น
- เดินสายไฟผิด อาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร
- ท่อทองแดงรั่ว ทำให้ระบบแอร์เสียประสิทธิภาพ
- ไม่ดูดอากาศออกจากระบบ อาจทำให้แอร์ไม่เย็น
- การติดตั้งไม่ตรงระดับ ทำให้น้ำหยดหรือน้ำรั่ว
ดังนั้น หากคุณไม่มั่นใจหรือไม่มีเครื่องมือครบ แนะนำให้ใช้บริการ ช่างติดตั้งแอร์มืออาชีพ ที่มีประสบการณ์และรับประกันผลงาน
เรียกช่างติดตั้งแอร์มืออาชีพ ดีกว่าติดตั้งเองอย่างไร
แม้ว่าการติดตั้งแอร์บ้านด้วยตัวเองจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงแรก แต่การ เรียกช่างติดตั้งแอร์ ที่มีประสบการณ์มาช่วยดูแลตั้งแต่ต้น จะช่วยลดความเสี่ยงและยืดอายุการใช้งานของแอร์ได้มากกว่า
เหตุผลที่ควรเรียกช่างติดตั้งแอร์มืออาชีพ
- ความปลอดภัยสูงกว่า
ช่างติดตั้งแอร์มีความรู้ด้านระบบไฟฟ้า แรงดัน และการต่อท่อทองแดงอย่างถูกวิธี ซึ่งลดความเสี่ยงต่อไฟฟ้าลัดวงจรหรือแอร์รั่วได้มาก - มีเครื่องมือครบและมาตรฐานกว่า
เช่น เครื่อง Vacuum Pump, เครื่องวัดแรงดัน, เกจวัดน้ำยาแอร์ ซึ่งจำเป็นต่อการติดตั้งให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ - รับประกันผลงานหลังติดตั้ง
เมื่อคุณเรียกช่างติดตั้งแอร์จากศูนย์บริการที่เชื่อถือได้ เช่น Rak Chang จะได้รับใบรับประกันผลงาน และบริการดูแลหลังการติดตั้งหากมีปัญหา - ช่วยเลือกขนาดแอร์และตำแหน่งที่เหมาะสม
ช่างที่มีประสบการณ์จะสามารถประเมินขนาด BTU ให้เหมาะกับขนาดห้อง และแนะนำตำแหน่งติดตั้งที่ระบายอากาศได้ดีที่สุด
คำถามที่พบบ่อย
Q: แอร์ติดผนังควรติดสูงแค่ไหน?
A: แนะนำให้ติดตั้งห่างจากเพดานประมาณ 15–20 ซม. เพื่อให้ลมเย็นกระจายได้ทั่วห้อง
Q: ถ้าแอร์ไม่เย็นหลังติดตั้งเอง ควรทำอย่างไร?
A: ตรวจสอบการดูดสุญญากาศและท่อทองแดง หากไม่แน่ใจ ควรเรียกช่างมาตรวจสอบเพิ่มเติม
Q: ใช้แอร์กี่ BTU ถึงจะเหมาะกับห้องนอน?
A: ห้องขนาด 12–15 ตร.ม. เหมาะกับแอร์ขนาด 9,000–12,000 BTU แต่ควรให้ช่างช่วยคำนวณเพิ่มเติมเพื่อความแม่นยำ
แนะนำบริการติดตั้งแอร์โดยมืออาชีพ
การติดตั้งแอร์ที่ถูกต้องไม่เพียงช่วยให้เครื่องทำงานเต็มประสิทธิภาพ แต่ยังลดปัญหาน้ำรั่ว เสียงดัง และกินไฟเกินจำเป็น หากคุณไม่มั่นใจในการติดตั้งเอง แนะนำให้ใช้บริการจาก Rak Chang ที่พร้อมดูแลตั้งแต่ติดตั้ง ซ่อมบำรุง ไปจนถึงตรวจเช็กสภาพแอร์อย่างมืออาชีพ
ช่องทางการติดต่อ
เบอร์ : 02-096-6220
Line ID : @rak-chang
Facebook : Rak-Chang รักช่าง ล้างแอร์ (แอร์เซอร์วิส)


