ศูนย์ข้อมูลความรู้ – FAQs

รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ รักช่าง

ทำไมควรเลือกใช้บริการของบริษัท รักช่าง?

บริษัท รักช่าง เป็นบริการมีความเชี่ยวชาญและหลากหลายเพื่อให้ความสะดวกสบายแก่ลูกค้า โดยเฉพาะในด้านการดูแลและซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เช่น แอร์ และเครื่องซักผ้า บริการหลักๆ ของบริษัทประกอบด้วยการล้างแอร์, ซ่อมแอร์, ติดตั้งแอร์, ย้ายแอร์, ล้างเครื่องซักผ้า และบริการลอกท่อตัน

ซึ่งแต่ละบริการมีการรับประกันคุณภาพและการทำงานโดยช่างที่มีประสบการณ์
โดยมีทีมช่างที่มีประสบการณ์และผ่านการฝึกอบรมตามมาตรฐาน ทำให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพของงานบริการที่ได้รับ นอกจากนี้ บริษัทยังมีการรับประกันผลงานที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกอุ่นใจมากยิ่งขึ้น โดยมีระยะเวลารับประกันตั้งแต่ 30 วันถึง 45 วัน ขึ้นอยู่กับประเภทของบริการที่เลือกใช้

บริการของบริษัท รักช่าง ยังมีบริการที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการล้างแอร์ ซ่อมแอร์ ติดตั้งแอร์ และบริการล้างเครื่องซักผ้า ซึ่งทั้งหมดนี้มีราคาเริ่มต้นที่คุ้มค่าและมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า นอกจากนี้ บริษัทยังมีบริการอบโอโซนฟรีที่ช่วยฆ่าเชื้อและลดกลิ่นอับภายในห้อง ทำให้ลูกค้าได้รับบริการที่ครบวงจรและมีคุณภาพสูง

ด้วยความสะดวกในการจองคิวและการบริการที่ตรงต่อเวลาลูกค้าสามารถมั่นใจในคุณภาพและความสะดวกสบายที่บริษัทมอบให้ บริษัท รักช่าง จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการบริการที่มีมาตรฐานและเชื่อถือได้ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ที่ระบุไว้ในเว็บไซต์ของบริษัท

การรับประกันบริการล้างแอร์มีระยะเวลาเท่าไหร่?

การรับประกันบริการล้างแอร์จากบริษัท รักช่าง จำกัด มีระยะเวลาที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของแพ็คเกจที่ลูกค้าเลือกใช้บริการ โดยแพ็คเกจล้างแอร์ธรรมดาจะมีระยะเวลารับประกัน 30 วัน ในขณะที่แพ็คเกจล้างแอร์พรีเมียมและแพ็คเกจล้างแอร์ใหญ่จะมีระยะเวลารับประกันถึง 45 วัน
การรับประกันนี้เป็นการรับประกันคุณภาพการบริการที่ลูกค้าจะได้รับ ซึ่งหมายความว่าหากมีปัญหาหรือข้อบกพร่องเกิดขึ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด ลูกค้าสามารถติดต่อบริษัทเพื่อขอให้มีการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาได้ โดยบริษัทมีทีมช่างที่มีประสบการณ์และผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี เพื่อให้บริการที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูงสุดแก่ลูกค้า

บริการของบริษัท รักช่าง มีอะไรบ้าง?

บริษัท รักช่าง จำกัด มีบริการที่หลากหลายเพื่อให้ความสะดวกสบายแก่ลูกค้า โดยเฉพาะในด้านการดูแลและซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เช่น แอร์ และเครื่องซักผ้า บริการหลักๆ ของบริษัทประกอบด้วยการล้างแอร์, ซ่อมแอร์, ติดตั้งแอร์, ย้ายแอร์, ล้างเครื่องซักผ้า และบริการลอกท่อตัน ซึ่งแต่ละบริการมีการรับประกันคุณภาพและการทำงานโดยช่างที่มีประสบการณ์
สำหรับบริการล้างแอร์ บริษัทมีแพ็คเกจที่หลากหลาย เช่น แพ็คเกจล้างแอร์ธรรมดาเริ่มต้นที่ 650 บาท ซึ่งรวมถึงการล้างคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน, ตรวจเช็คน้ำยาแอร์, และบริการอบโอโซนฆ่าเชื้อฟรี นอกจากนี้ยังมีแพ็คเกจพรีเมียมและแพ็คเกจใหญ่ที่มีบริการเพิ่มเติม เช่น การถอดล้างพัดลมโพรงกระรอกและการดูดความชื้นในระบบแอร์ โดยมีการรับประกันคุณภาพงานที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจในบริการของบริษัท
นอกจากนี้ บริษัท รักช่าง ยังมีบริการล้างเครื่องซักผ้าเพื่อแก้ปัญหาซักผ้าไม่สะอาดและมีกลิ่นอับ โดยช่างผู้มีความชำนาญในการทำงาน ซึ่งสามารถจองคิวได้ง่ายและมีการรับประกันหลังการบริการ 30 วัน ทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจในคุณภาพและความสะดวกสบายที่บริษัทมอบให้ และอีกหนึ่งบริการของบริษัทรักช่างคือ บริการลอกท่อตัน ไม่ว่าจะเป็นท่อ ท่อห้องน้ำตัน ลอกท่อซิงค์ล้างจาน อ่างล้างมือ ทางบริษัทมีช่างที่มีคุณภาพและความชำนาญในการแก้ปัญหาท่อตัน น้ำระบายสามารถจองคิวและติดได้เลยค่ะ

ราคาล้างแอร์เริ่มต้นที่เท่าไหร่?

ราคาล้างแอร์เริ่มต้นที่ 650 บาทต่อเครื่อง สำหรับบริการล้างแอร์ติดผนังธรรมดา ซึ่งรวมถึงการล้างคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน การตรวจเช็คน้ำยาแอร์ และบริการอบโอโซนฆ่าเชื้อภายในห้องฟรี นอกจากนี้ยังมีบริการล้างแอร์พรีเมี่ยมที่เริ่มต้นที่ 990 บาทต่อเครื่อง ซึ่งจะมีการถอดล้างพัดลมโพรงกระรอกและมีการรับประกันงานนานถึง 45 วัน
สำหรับแพ็คเกจล้างใหญ่ที่ต้องการการดูแลพิเศษ ราคาล้างแอร์จะเริ่มต้นที่ 2,100 บาทต่อเครื่อง โดยจะมีการยกตัดล้างทั้งเครื่องและการดูดความชื้นในระบบแอร์ด้วย ซึ่งบริการทั้งหมดนี้จะดำเนินการโดยช่างที่มีประสบการณ์และผ่านมาตรฐานจากบริษัท รักช่าง จำกัด เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความพึงพอใจของลูกค้า

บริการอบโอโซนฟรีมีให้ในแพ็คเกจไหนบ้าง?

บริการอบโอโซนฟรีมีให้ในแพ็คเกจล้างแอร์หลายประเภทของบริษัท รักช่าง ซึ่งรวมถึงแพ็คเกจล้างแอร์เหมาๆ, แพ็คเกจล้างแอร์พรีเมียม และแพ็คเกจล้างแอร์ใหญ่ โดยในแต่ละแพ็คเกจจะมีการให้บริการอบโอโซนเพื่อฆ่าเชื้อและลดกลิ่นอับภายในห้องฟรี
สำหรับแพ็คเกจล้างแอร์เหมาๆ ราคาเริ่มต้นที่ 650 บาท จะรวมถึงการล้างคอยล์ทั้งเย็นและคอยล์ร้อน พร้อมกับการตรวจเช็คน้ำยาแอร์ และบริการอบโอโซนฟรี ในขณะที่แพ็คเกจล้างแอร์พรีเมียม ราคา 990 บาท จะมีการให้บริการที่ครบถ้วนมากขึ้น รวมถึงการถอดล้างพัดลมโพรงกระรอกและการฉีดน้ำยาทำความสะอาดหลังล้าง นอกจากนี้ แพ็คเกจล้างแอร์ใหญ่ ราคา 2,100 บาท ยังมีบริการอบโอโซนฟรีเช่นกัน พร้อมกับการทำความสะอาดที่ลึกยิ่งขึ้นและอากาศที่ดีในบริเวณห้องหรือพื้นที่บ้านคุณลูกค้าและการรับประกันคุณภาพที่นานขึ้น

บริษัท รักช่าง ให้บริการในพื้นที่ใดบ้าง?

บริษัท รักช่าง ให้บริการครอบคลุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี และปทุมธานี ด้วยบริการที่หลากหลาย อาทิ ล้างแอร์ ซ่อมแอร์ ติดตั้งแอร์ และ ล้างเครื่องซักผ้า ลอกท่อตัน ซึ่งล้วนเป็นบริการที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในพื้นที่ดังกล่าว
เรามีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ พร้อมมาตรฐานการทำงานที่เน้นคุณภาพในทุกขั้นตอน ลูกค้าจึงมั่นใจได้ในผลงานและบริการที่ได้รับ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งมีความต้องการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

มีโปรโมชั่นอะไรบ้างสำหรับลูกค้าเก่าของรักช่าง?

บริษัท รักช่าง จำกัด มีโปรโมชั่นที่น่าสนใจสำหรับลูกค้าเก่าหลายรายการ โดยเฉพาะการให้ส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าที่แนะนำเพื่อนมาใช้บริการ โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิพิเศษในการใช้บริการต่าง ๆ เช่น การล้างแอร์ การซ่อมแอร์ และบริการอื่น ๆ ที่บริษัทมีให้
นอกจากนี้ ลูกค้าที่ซื้อแอร์ใหม่ทั้งแบบอินเวอร์เตอร์และแบบธรรมดากับรักช่าง ยังได้รับบริการติดตั้งฟรี รวมถึงสิทธิ์ในการล้างแอร์ฟรี 2 ครั้ง และการรับประกันที่สูงสุดถึง 180 วัน ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ช่วยให้ลูกค้าเก่ารู้สึกคุ้มค่าและได้รับการดูแลอย่างดีจากบริษัท การให้บริการที่มีคุณภาพและการรับประกันหลังการบริการยังเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจในบริการของรักช่างอีกด้วย

ค่าบริการล้างแอร์ราคาเท่าไหร่

บริการ ราคาเริ่มต้น (บาท) รายละเอียดเพิ่มเติม
ล้างแอร์เหมาๆ 650 ฟรีอบโอโซน, เติมน้ำยา 10 psi, รับประกัน 30 วัน, ไม่เกิน 18,000 BTU
ล้างแอร์พรีเมี่ยม 990 ฟรีอบโอโซน, เติมน้ำยา 10 psi, รับประกัน 45 วัน, ราคาเดียวทุกขนาด BTU
ล้างแอร์ตัดล้าง 2100 ถอดล้างทุกชิ้น, แวกคั่มแอร์, รับประกัน 45 วัน, ไม่เกิน 18,000 BTU

โดยค่าบริการจะยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เเละเป็นราคาแอร์ติดผนังขนาดไม่เกิด 18,000 BTU
โดยหากแอร์ของคุณลูกค้ามีขนาดมากกว่านั้นกรุณาติดต่อฝ่ายขายเพิ่มทำราคาให้อีกครั้งค่ะ

การล้างแอร์มีประโยชน์อย่างไร?

การล้างเครื่องปรับอากาศเป็นประจำมีประโยชน์มากมายที่ส่งผลดีต่อทั้งตัวเครื่องและผู้ใช้งาน ประโยชน์หลักประการหนึ่งคือการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความเย็นของแอร์ เมื่อไม่มีฝุ่นและสิ่งสกปรกสะสม อากาศจะไหลเวียนได้ดีขึ้น ทำให้แอร์สามารถทำความเย็นได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ การล้างแอร์ยังช่วยประหยัดพลังงาน เนื่องจากแอร์ที่ไม่สกปรกจะทำงานได้ง่ายขึ้น ลดภาระของคอมเพรสเซอร์ ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลง
ในด้านสุขภาพ การล้างแอร์ช่วยกำจัดฝุ่นละออง เชื้อรา แบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ที่สะสมอยู่ภายในเครื่อง ทำให้ได้อากาศที่สะอาดและบริสุทธิ์มากขึ้น การบำรุงรักษาแอร์ด้วยการล้างเป็นประจำยังช่วยป้องกันการเกิดปัญหาและอุปกรณ์ขัดข้อง ทำให้เครื่องมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมในอนาคต นอกจากนี้ แอร์ที่สะอาดมักจะทำงานได้เงียบกว่าแอร์ที่มีฝุ่นเกาะหนา

ล้างแอร์บ่อยแค่ไหนถึงจะดี?

การทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศเป็นประจำถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพอากาศภายในบ้าน โดยทั่วไปแล้ว คำแนะนำสำหรับความถี่ในการล้างแอร์คือทุกๆ 6 เดือน หรือปีละ 2 ครั้ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศภายใต้การใช้งานปกติ.1 อย่างไรก็ตาม ความถี่ที่เหมาะสมอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ความถี่และระยะเวลาในการเปิดใช้งานแอร์ หากมีการใช้งานแอร์เป็นประจำและต่อเนื่องเป็นเวลานาน ก็อาจจำเป็นต้องล้างแอร์บ่อยขึ้น นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยก็มีผลเช่นกัน หากบ้านของคุณตั้งอยู่ใกล้ถนนใหญ่หรือบริเวณที่มีฝุ่นละอองจำนวนมาก ก็ควรพิจารณาที่จะล้างแอร์บ่อยขึ้น อาจเป็นทุกๆ 2-3 เดือน หรือปีละ 3-4 ครั้ง เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรกที่จะส่งผลเสียต่อการทำงานของแอร์
สำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงอาศัยอยู่ในบ้าน การล้างแอร์ที่บ่อยขึ้นก็อาจมีความจำเป็นเพื่อสุขอนามัยที่ดี.5 นอกเหนือจากการล้างแอร์เต็มระบบตามรอบแล้ว การทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ทุกๆ 2 สัปดาห์ หรืออย่างน้อยเดือนละครั้ง ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้แอร์ทำงานได้ดีขึ้นและประหยัดพลังงาน

น้ำยาแอร์ควรเติมเท่าไหร่ และรู้ได้ยังไงว่าจะต้องเติมน้ำยาแอร์ ?

การเติมน้ำยาแอร์ควรพิจารณาจากสเปกของเครื่องปรับอากาศเป็นหลัก โดยทั่วไปแล้ว ปริมาณน้ำยาแอร์ที่เหมาะสมจะระบุไว้ในป้ายข้อมูลของเครื่อง (Nameplate) ซึ่งติดอยู่บริเวณตัวเครื่องหรือในคู่มือการใช้งาน ทั้งนี้ปริมาณจะขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องและชนิดของน้ำยาแอร์ที่ใช้ เช่น R-32, R-410A หรือ R-22 ซึ่งจะรู้ได้ยังไงว่าต้องเติมน้ำยาแอร์ก่อนการเติมช่างจะมีเกรดวัดน้ำยาวัดน้ำยาให้คุณลูกค้าได้เห็นก่อนทำการเติมค่ะ โดยทั่วไปหากแอร์ไม่รั่วน้ำยาจะไม่ขาดอย่างเป็นที่แน่นอนค่ะ

แอร์รั่วมีอาการเป็นยังไง สาเหตุเกิดจากอะไร ?

แอร์รั่ว (หมายถึงน้ำยาแอร์รั่ว) เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น:
1. รอยรั่วตามท่อแอร์
• ท่อทองแดงที่ลำเลียงน้ำยาแอร์อาจเกิดรอยร้าว, ผุกร่อน, โดนกระแทก หรือสั่นสะเทือนมากเกินไปจนแตก
2. ข้อต่อหลวม
• จุดเชื่อมต่อของท่อแอร์หรือวาล์วต่าง ๆ อาจหลวมตามการใช้งานนาน ๆ หรือจากการติดตั้งไม่แน่นหนา
3. คอยล์รั่ว
• คอยล์เย็น (ที่อยู่ในห้อง) หรือคอยล์ร้อน (ที่อยู่นอกห้อง) อาจมีรูพรุน, สนิม, หรือเกิดการกัดกร่อนตามเวลา
4. ปัญหาจากการติดตั้ง
• ถ้าติดตั้งผิดวิธี เช่น ท่อขาดการหุ้มฉนวนที่ดี, การบานท่อไม่สมบูรณ์ หรือมีเศษโลหะตกค้าง ก็ทำให้เกิดรั่วได้
5. การสั่นสะเทือนหรือแรงกระแทก
• ถ้าเครื่องสั่นมากเกินไป หรือมีการเคลื่อนย้ายแรง ๆ อาจทำให้ข้อต่อหรือท่อแตกได้
6. อายุการใช้งานของแอร์
• แอร์เก่า (เกิน 7-10 ปี) มีโอกาสรั่วมากขึ้น เพราะวัสดุต่าง ๆ เสื่อมสภาพตามธรรมชาติ
7. ปัญหาจากสารทำความสะอาดหรือสารเคมี
• หากล้างแอร์ด้วยน้ำยาที่มีฤทธิ์กัดกร่อน อาจทำให้คอยล์หรือท่อทองแดงบางลงจนรั่วได้
ถ้าแอร์รั่วจริง ๆ จะมีอาการเช่น
• ลมออกมาไม่เย็น
• เครื่องทำงานตลอดเวลาแต่ห้องไม่เย็น
• ได้ยินเสียง "ฟู่" เล็ก ๆ บางครั้ง
• น้ำแข็งเกาะที่ท่อแอร์หรือคอยล์เย็น

สัญญาณใดบ้างที่บ่งบอกว่าถึงเวลาต้องล้างแอร์?

มีสัญญาณหลายอย่างที่บ่งชี้ว่าเครื่องปรับอากาศของคุณถึงเวลาที่ควรได้รับการทำความสะอาดแล้ว หนึ่งในสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดคือประสิทธิภาพในการทำความเย็นลดลง หากคุณรู้สึกว่าแอร์ไม่เย็นฉ่ำเหมือนเคย หรือต้องใช้เวลานานกว่าปกติในการทำให้อุณหภูมิห้องลดลง นี่อาจเป็นสัญญาณว่ามีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกสะสมอยู่ภายใน
อีกสัญญาณหนึ่งที่พบบ่อยคือการมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นอับหรือกลิ่นเหม็น ออกมาจากเครื่องปรับอากาศเมื่อเปิดใช้งาน ซึ่งมักเกิดจากการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรียภายใน.2 นอกจากนี้ หากคุณสังเกตเห็นว่ามีเสียงดังผิดปกติขณะที่แอร์ทำงาน ก็อาจเป็นสัญญาณของปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความสกปรกหรือการสะสมของสิ่งแปลกปลอมภายในเครื่อง.2 สุดท้าย การสังเกตด้วยตาเปล่า หากคุณเห็นฝุ่นละอองหรือคราบสกปรกเกาะอยู่บริเวณช่องลมออกหรือแผ่นกรองอากาศ ก็เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าถึงเวลาทำความสะอาดแล้ว

ควรล้างแอร์ทุกกี่เดือนถึงจะยืดอายุการใช้งานแอร์และทำให้ประหยัดค่าไฟ ?

ควรล้างแอร์ทุก 4-6 เดือนครั้ง เพื่อยืดอายุการใช้งานแอร์และช่วยประหยัดค่าไฟ แต่จะขึ้นอยู่กับปัจจัยเพิ่มเติม เช่น:
• ถ้าใช้งานแอร์บ่อย เช่น เปิดเกือบทุกวัน ควรล้างทุก 4 เดือน
• ถ้าเปิดใช้น้อย เช่น เฉพาะวันหยุดหรือวันอากาศร้อนมาก ๆ อาจล้างทุก 6 เดือน
• ถ้ามีฝุ่นเยอะ สัตว์เลี้ยง หรืออยู่ในเขตเมือง/ริมถนน ควร ล้างบ่อยขึ้น ประมาณทุก 3-4 เดือน

การล้างแอร์ จะช่วยเรื่อง:
• ลดการอุดตันของฝุ่นที่แผงคอยล์เย็น ทำให้แอร์เย็นเร็วขึ้น
• ลดการทำงานหนักของคอมเพรสเซอร์ ทำให้กินไฟน้อยลง
• ลดการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรียในอากาศ
• ยืดอายุการใช้งานของแอร์โดยรวม

ติดต่อบริษัท รักช่าง ร้านขายแอร์ ล้างแอร์ ซ่อมแอร์ ครบวงจร

ลูกค้าสามารถติดต่อบริษัท รักช่าง ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-096-6220 ซึ่งเป็นหมายเลขที่ให้บริการลูกค้าหรือ ไลน์บริษัท @rak-chang เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบริการต่างๆ ของบริษัท เช่น การล้างแอร์ ซ่อมแอร์ ย้ายติดตั้ง และบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน
นอกจากนี้ บริษัท รักช่าง ยังมีบริการที่หลากหลาย เช่น การล้างเครื่องซักผ้า การติดตั้งและย้ายแอร์ รวมถึงการแก้ปัญหาท่อตัน โดยมีทีมช่างที่มีประสบการณ์และผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี เพื่อให้บริการที่มีคุณภาพและตรงตามมาตรฐานที่ลูกค้าคาดหวัง หากลูกค้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือการนัดหมาย สามารถโทรไปที่หมายเลขดังกล่าวได้ทันที

อาการใดบ้างที่บ่งบอกว่าแอร์เสียและต้องการซ่อมแซม?

มีหลายอาการที่บ่งชี้ว่าเครื่องปรับอากาศของคุณอาจมีปัญหาและต้องการการซ่อมแซม หนึ่งในอาการที่พบบ่อยที่สุดคือแอร์ไม่เย็นหรือมีแต่ลมออกมา อาการอื่นๆ ที่ควรสังเกต ได้แก่ แอร์เย็นไม่สม่ำเสมอ บางครั้งเย็นบางครั้งไม่เย็น มีเสียงดังผิดปกติ เช่น เสียงดังครืดคราด เสียงหอน หรือเสียงลมดังฟู่ๆ มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นอับหรือกลิ่นไหม้ 8มีน้ำหยดจากตัวเครื่อง แอร์ตัดบ่อยกว่าปกติ หรือค่าไฟฟ้าสูงขึ้นอย่างผิดสังเกต นอกจากนี้ หากมีไฟแสดงสถานะผิดปกติ หรือมี Error Code ปรากฏบนตัวเครื่อง ก็เป็นสัญญาณว่าแอร์อาจมีปัญหา

ตรวจสอบแอร์เบื้องต้นด้วยตัวเองได้อย่างไรก่อนเรียกช่าง?

ก่อนที่จะเรียกช่างซ่อมแอร์ คุณสามารถตรวจสอบเบื้องต้นด้วยตัวเองได้หลายอย่าง เริ่มจากตรวจสอบการตั้งค่าของรีโมทคอนโทรล ว่าอยู่ในโหมดทำความเย็น (Cool) และตั้งอุณหภูมิเหมาะสมหรือไม่ ตรวจสอบว่าเครื่องปรับอากาศเสียบปลั๊กไฟแน่นสนิท และเบรกเกอร์ที่ควบคุมแอร์ยังทำงานอยู่หรือไม่ ทำความสะอาดหรือเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ หากพบว่าสกปรกมาก ตรวจสอบคอยล์ร้อนภายนอกอาคารว่ามีสิ่งกีดขวางการระบายความร้อนหรือไม่ เช่น ใบไม้ หรือสิ่งของอื่นๆ ลองสังเกตว่ามี Error Code ปรากฏบนหน้าจอแสดงผลของเครื่องหรือไม่ หากมี ให้จดบันทึกไว้เพื่อแจ้งช่าง ตรวจสอบท่อน้ำทิ้งว่ามีการอุดตันหรือไม่ หากพบว่ามีน้ำหยดออกมาจากตัวเครื่องมากผิดปกติ

ค่าบริการซ่อมแอร์โดยประมาณราคาเท่าไหร่?

รักช่างเรามีค่าบริการการตรวจเช็กแอร์ 500 บาท และค่าบริการซ่อมเครื่องปรับอากาศมีความผันผวนสูง ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของปัญหา ความซับซ้อนในการซ่อมแซม อะไหล่ที่จำเป็นต้องเปลี่ยน และค่าแรงช่าง การเรียกช่างมาตรวจสอบอาการเสียเบื้องต้นอาจมีค่าบริการตรวจเช็คหน้างาน สำหรับการซ่อมแซมเล็กน้อย เช่น การเปลี่ยนคาปาซิเตอร์ หรือการแก้ไขปัญหาท่อน้ำทิ้งอุดตัน อาจมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันบาท ในกรณีที่ต้องมีการเปลี่ยนอะไหล่ที่มีราคาสูง เช่น คอมเพรสเซอร์ หรือแผงวงจรควบคุม ค่าบริการก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย รักช่างมีนโยบายการคิดค่าบริการที่เป็นธรรมและโปร่งใส โดยช่างของเราจะทำการประเมินอาการเสียและแจ้งค่าใช้จ่ายให้ลูกค้าทราบก่อนทำการซ่อมแซมทุกครั้ง

รักช่างซ่อมแอร์ยี่ห้อใดบ้าง?

รักช่างมีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการซ่อมเครื่องปรับอากาศหลากหลายยี่ห้อ ที่นิยมใช้กันในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อ Carrier , Daikin , Mitsubishi Electric , Panasonic , LG , Samsung , Sharp, หรือยี่ห้ออื่นๆ ทีมช่างของเรามีความรู้ความเข้าใจในระบบการทำงานและอะไหล่ของแอร์แต่ละยี่ห้อเป็นอย่างดี ทำให้สามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด หากคุณมีเครื่องปรับอากาศยี่ห้อใดก็ตามที่มีปัญหา สามารถติดต่อรักช่างเพื่อขอรับบริการซ่อมแซมได้

ควรทำอย่างไรหากแอร์ยังเสียหลังจากได้รับการซ่อมแซมแล้ว?

หากเครื่องปรับอากาศของคุณยังคงมีปัญหาหลังจากได้รับการซ่อมแซมจากรักช่างแล้ว สิ่งแรกที่ควรทำคือติดต่อกลับมาหาเราโดยเร็วที่สุด หรือโทร 02-096-6220 หรือเเจ้งผ่านไลน์เเอด @rak-chang ทีมงานของเราจะทำการนัดหมายเพื่อส่งช่างผู้เชี่ยวชาญไปตรวจสอบอาการอีกครั้ง โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่ปัญหาเกิดจากงานซ่อมเดิม เราจะทำการวินิจฉัยปัญหาอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและดำเนินการแก้ไขให้เครื่องปรับอากาศของคุณกลับมาทำงานได้อย่างปกติโดยเร็วที่สุด รักช่างมีความมุ่งมั่นที่จะให้บริการที่ดีที่สุดและแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าจนกว่าจะพึงพอใจ

การติดตั้งแอร์มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่เท่าไหร่?

การติดตั้งเครื่องปรับอากาศมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 3,500 บาทต่อเครื่อง สำหรับแอร์ติดผนังขนาดไม่เกิน 18,000 BTU หากเครื่องมีขนาดใหญ่กว่านี้ แนะนำให้สอบถามเจ้าหน้าที่เพื่อรับข้อมูลค่าใช้จ่ายที่ถูกต้องและเหมาะสมยิ่งขึ้น
นอกจากบริการติดตั้งแล้ว บริษัท รักช่าง ยังมีบริการด้านเครื่องปรับอากาศอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการล้างแอร์ ซ่อมแอร์ และย้ายแอร์ โดยค่าบริการเริ่มต้นแตกต่างกันไปตามประเภทของงาน เช่น การล้างแอร์เริ่มต้นที่ 650 บาท และการซ่อมแอร์เริ่มต้นที่ 500 บาท
การติดตั้งแอร์จึงนับเป็นการลงทุนที่สำคัญ เพื่อมอบความเย็นสบายและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับบ้านหรือสำนักงานของคุณ

การใช้ประแจทอร์คสำคัญต่อการติดตั้งยังไง ?

การใช้ ประแจทอร์ค (Torque Wrench) ตอนติดตั้งแอร์มีความสำคัญมาก เพราะมันช่วย ควบคุมแรงบิด ที่ใช้ในการขันข้อต่อท่อทองแดงหรือข้อต่อระบบทำความเย็นให้พอดี — ไม่แน่นเกินไป หรือ หลวมเกินไป ซึ่งมีผลโดยตรงต่อคุณภาพของงานติดตั้ง ดังนี้:

1. ป้องกันการรั่วของสารทำความเย็น
ถ้าขันไม่แน่นพอ อาจทำให้สารทำความเย็น (น้ำยาแอร์) รั่วออกมา ซึ่งทำให้แอร์ไม่เย็น และทำให้ระบบเสียหายได้ในระยะยาว

2. ป้องกันความเสียหายของเกลียวข้อต่อ
ถ้าขันแน่นเกินไป อาจทำให้เกลียวข้อต่อเสียหาย ท่อทองแดงแตก หรือข้อต่อบวม จนต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งชุด ซึ่งมีต้นทุนสูงมาก

3. ยืดอายุการใช้งานของแอร์
การขันด้วยแรงที่ถูกต้อง ช่วยให้ระบบทำความเย็นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่มีปัญหารั่ว หรือความดันตก ส่งผลให้อายุการใช้งานของแอร์ยาวนานขึ้น

4. เป็นไปตามมาตรฐานการติดตั้ง
ผู้ผลิตแอร์ (เช่น Mitsubishi, Daikin, Panasonic ฯลฯ) มักระบุแรงบิดที่เหมาะสมสำหรับข้อต่อแต่ละขนาดไว้ในคู่มือติดตั้ง เช่น ท่อขนาด 1/4", 3/8", 1/2" ต้องใช้แรงบิดกี่นิวตันเมตร (Nm) หรือกี่ปอนด์นิ้ว (lbf.in) การใช้ประแจทอร์คทำให้เรายึดตามมาตรฐานเหล่านี้ได้แน่นอน

เงื่อนไขการรับประกันของงานติดตั้งแอร์และโปรโมชั่น ?

เมื่อคุณลูกค้าติดตั้งเครื่องปรับอากาศใหม่และซื้อกับบริษัท รักช่าง คุณลูกค้าจะได้รับการ รับประกันงานติดตั้งนานถึง 180 วัน พร้อมสิทธิ์ล้างแอร์ฟรี 2 ครั้งภายในระยะเวลา 1 ปีนับจากวันที่ ติดตั้ง

การติดตั้งแอร์ใหม่และแอร์มือสองได้อะไรจากทางบริษัทรักช่างบ้าง ?

บริการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ (แอร์)

• ราคาเริ่มต้นเพียง 3,500 บาท สำหรับแอร์ติดผนังขนาดไม่เกิน 18,000 BTU
• ราคาเริ่มต้น 4,500 บาท สำหรับแอร์ติดผนังขนาดตั้งแต่ 18,001 BTU ขึ้นไป

สิ่งที่คุณจะได้รับฟรี!
✅ท่อน้ำยาแอร์ยาว 4 เมตร
✅รางครอบท่อ 4 เมตร
✅สายไฟยาว 10 เมตร
✅เบรกเกอร์มาตรฐาน 1 ชุด
✅รับประกันงานติดตั้งนาน 30 วัน

หมายเหตุ: หากมีความต้องการใช้อุปกรณ์เกินจากที่กำหนด เช่น ท่อน้ำยา หรือรางครอบเกิน 4 เมตร สามารถสอบถามราคากับเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายเพิ่มเติมได้

ควรเลือกแอร์ขนาด BTU เท่าไหร่ให้เหมาะสมกับห้อง?

ตารางคำนวณ BTU ที่เหมาะสมกับขนาดห้อง
ขนาดห้อง (กว้าง x ยาว) (ตารางเมตร) BTU ที่แนะนำ (โดยประมาณ) เหมาะสำหรับห้อง
9 - 14 9,000 ห้องนอนเล็ก, ห้องทำงาน
15 - 20 12,000 ห้องนอนกลาง, ห้องรับแขกเล็ก
21 - 28 18,000 ห้องนั่งเล่น, ห้องประชุมขนาดกลาง
29 - 35 24,000 ห้องนั่งเล่นใหญ่, โถงกว้าง

คำอธิบาย:

  • BTU คือ หน่วยวัดความสามารถในการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ
  • การเลือก BTU ที่เหมาะสม ช่วยให้แอร์เย็นเร็ว ประหยัดไฟ และใช้งานได้นาน
  • สูตรคำนวณโดยประมาณ: พื้นที่ห้อง (ตารางเมตร) x 600 = BTU ที่ต้องการ
  • ถ้าห้องโดนแดด เพดานสูง หรือมีคนอยู่หลายคน ให้เพิ่ม BTU อีก 10-20%
  • ตารางนี้เป็นแนวทางเบื้องต้น หากต้องการความแม่นยำ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

หากไม่แน่ใจ รักช่างยินดีให้คำแนะนำในการเลือกขนาด BTU ที่เหมาะสมกับห้องของคุณ

ตำแหน่งใดเหมาะสมที่สุดสำหรับการติดตั้งแอร์ในห้อง?

การเลือกตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งเครื่องปรับอากาศในห้องมีผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพการทำความเย็นและการกระจายลมเย็น ตำแหน่งที่เหมาะสมควรช่วยให้ลมเย็นสามารถกระจายไปทั่วทั้งห้องได้อย่างสม่ำเสมอ โดยหลีกเลี่ยงการติดตั้งในตำแหน่งที่ลมเย็นจะเป่าถูกตัวโดยตรงเป็นเวลานาน ซึ่งอาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบาย นอกจากนี้ ควรเลือกตำแหน่งที่ง่ายต่อการดูแลรักษา เช่น การทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ หลีกเลี่ยงการติดตั้งแอร์เหนือประตู เพราะจะทำให้ความเย็นไหลออกจากห้องได้ง่าย สำหรับห้องนอน ไม่ควรติดตั้งแอร์ไว้เหนือศีรษะหรือปลายเตียง. การติดตั้งแอร์ในตำแหน่งที่ไม่โดนแสงแดดหรือความร้อนโดยตรงจะช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและประหยัดพลังงาน สำหรับคอยล์ร้อน (outdoor unit) ควรติดตั้งในบริเวณที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่แคบจนเกินไป เพื่อให้สามารถระบายความร้อนได้ดี และควรมีพื้นที่รอบตัวเครื่องสำหรับการบำรุงรักษา รักช่างมีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับตำแหน่งติดตั้งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับบ้านของคุณ

ขั้นตอนการติดตั้งแอร์เป็นอย่างไร? ใช้เวลานานแค่ไหน?

ขั้นตอนการติดตั้งเครื่องปรับอากาศโดยทั่วไปเริ่มต้นด้วยการสำรวจพื้นที่ที่จะติดตั้ง เพื่อประเมินขนาดห้องและตำแหน่งที่เหมาะสม จากนั้น ช่างจะทำการติดตั้งแผ่นยึดสำหรับคอยล์เย็น (indoor unit) บนผนัง และเจาะรูสำหรับร้อยท่อน้ำยาและท่อน้ำทิ้ง ต่อมาจะทำการติดตั้งคอยล์ร้อน (outdoor unit) ในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงการระบายความร้อนและพื้นที่สำหรับการบำรุงรักษา หลังจากนั้น จะทำการเชื่อมต่อท่อน้ำยาระหว่างคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน และเดินสายไฟ ขั้นตอนสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการแวคคั่มระบบ เพื่อไล่อากาศและความชื้นออกจากท่อก่อนปล่อยน้ำยาแอร์เข้าสู่ระบบ
สุดท้าย ช่างจะทำการทดสอบการทำงานของเครื่องปรับอากาศเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างทำงานได้อย่างถูกต้อง ระยะเวลาในการติดตั้งอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของงานและประเภทของเครื่องปรับอากาศ โดยทั่วไปแล้ว การติดตั้งแอร์ติดผนังอาจใช้เวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมง

รักช่างมีบริการติดตั้งแอร์ประเภทใดบ้าง?

รักช่างมีบริการติดตั้งเครื่องปรับอากาศหลากหลายประเภท เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน บริการหลักของเราครอบคลุมถึงการติดตั้งแอร์แบบติดผนัง (Wall Type) ซึ่งเป็นประเภทที่นิยมมากที่สุดสำหรับบ้านพักอาศัย นอกจากนี้ เรายังมีบริการติดตั้งแอร์แบบตั้งพื้น/แขวนเพดาน (Floor/Ceiling Type) ซึ่งเหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่กว้าง หรือสำนักงาน สำหรับลูกค้าที่ต้องการความสวยงามและประหยัดพื้นที่ เรายังมีบริการติดตั้งแอร์แบบฝังฝ้า (Cassette Type) และแอร์แบบต่อท่อลม (Duct Connected Type) ทีมช่างของรักช่างมีความเชี่ยวชาญในการติดตั้งแอร์ทุกประเภทอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องปรับอากาศของคุณจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

ควรเตรียมสถานที่อย่างไรก่อนการติดตั้งแอร์?

เพื่อให้การติดตั้งเครื่องปรับอากาศเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว ลูกค้าควรเตรียมสถานที่ดังนี้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผนังที่จะติดตั้งคอยล์เย็นมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะรองรับน้ำหนักของเครื่องได้ และไม่มีสิ่งกีดขวางบริเวณนั้น สำหรับคอยล์ร้อน ควรเลือกพื้นที่ภายนอกอาคารที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่โดนแสงแดดจัดโดยตรง และมีพื้นที่รอบตัวเครื่องสำหรับการระบายความร้อนและการบำรุงรักษา ควรตรวจสอบว่ามีปลั๊กไฟที่สามารถใช้งานได้ใกล้กับตำแหน่งที่จะติดตั้งคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน หรือหากจำเป็นต้องมีการเดินสายไฟเพิ่มเติม ควรแจ้งให้รักช่างทราบล่วงหน้า หากเป็นการติดตั้งแอร์ประเภทฝังฝ้า ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีพื้นที่บนฝ้าเพดานเพียงพอสำหรับติดตั้งตัวเครื่อง สุดท้าย ควรเก็บสิ่งของมีค่าหรือเฟอร์นิเจอร์ที่อาจได้รับความเสียหายจากการติดตั้งออกจากบริเวณนั้น

มีการรับประกันการติดตั้งแอร์หรือไม่?

รักช่างมีการรับประกันคุณภาพงานติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในบริการของเรา การรับประกันงานติดตั้งมีระยะเวลา 180 วัน นับจากวันที่ติดตั้ง การรับประกันนี้ครอบคลุมถึงปัญหาที่เกิดจากการติดตั้งที่ไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน เช่น การรั่วซึมของน้ำยาแอร์ น้ำหยด หรือการทำงานที่ไม่ปกติของเครื่องอันเนื่องมาจากการติดตั้ง หากลูกค้าพบปัญหาเหล่านี้ภายในระยะเวลารับประกัน รักช่างยินดีที่จะส่งช่างไปตรวจสอบและแก้ไขโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม รายละเอียดและเงื่อนไขของการรับประกันจะแจ้งให้ลูกค้าทราบก่อนการเข้ารับบริการ

สามารถย้ายแอร์ไปติดตั้งที่ตำแหน่งใหม่ได้หรือไม่?

โดยทั่วไปแล้ว เครื่องปรับอากาศสามารถย้ายและติดตั้งใหม่ในตำแหน่งใหม่ได้. อย่างไรก็ตาม มีข้อจำกัดบางประการที่ควรพิจารณา ข้อจำกัดหนึ่งคืออายุและสภาพของเครื่องปรับอากาศ เครื่องที่เก่ามากอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายระหว่างการขนย้ายและติดตั้งใหม่ นอกจากนี้ ระยะทางในการขนย้ายก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่อาจมีผลต่อค่าใช้จ่ายและขั้นตอนการดำเนินงาน สิ่งสำคัญคือขนาด BTU ของเครื่องปรับอากาศเดิมต้องเหมาะสมกับขนาดของห้องที่จะติดตั้งใหม่ หากขนาดห้องแตกต่างกันมาก อาจทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ สภาพของท่อน้ำยาเดิมก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา หากท่อเก่าหรือชำรุด อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนท่อใหม่ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม การย้ายแอร์อย่างถูกวิธีต้องอาศัยความชำนาญและอุปกรณ์ที่เหมาะสม เพื่อป้องกันความเสียหายต่อเครื่องและระบบน้ำยา รักช่างมีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่สามารถประเมินความเป็นไปได้และให้คำแนะนำในการย้ายแอร์ของคุณได้อย่างเหมาะสม

ขั้นตอนการย้ายแอร์เป็นอย่างไร?

ขั้นตอนการย้ายเครื่องปรับอากาศโดยทั่วไปเริ่มต้นด้วยการตรวจสอบพื้นที่เดิมและพื้นที่ใหม่ที่จะติดตั้ง เพื่อวางแผนการดำเนินงาน จากนั้น ช่างจะทำการปิดระบบไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศและทำการถอดคอยล์เย็น (indoor unit) และคอยล์ร้อน (outdoor unit) ออกจากตำแหน่งเดิมอย่างระมัดระวัง โดยมีการเก็บน้ำยาแอร์เข้าสู่ระบบเพื่อลดการสูญเสีย หลังจากนั้น จะทำการขนย้ายเครื่องปรับอากาศไปยังตำแหน่งใหม่ที่ได้กำหนดไว้ ในขั้นตอนการติดตั้งใหม่ ช่างจะทำการติดตั้งแผ่นยึดสำหรับคอยล์เย็น เดินท่อน้ำยาและสายไฟใหม่หากจำเป็น ติดตั้งคอยล์ร้อนในตำแหน่งที่เหมาะสม และทำการเชื่อมต่อท่อต่างๆ ขั้นตอนสำคัญคือการแวคคั่มระบบเพื่อไล่อากาศและความชื้น ก่อนที่จะปล่อยน้ำยาแอร์เข้าสู่ระบบ สุดท้าย ช่างจะทำการทดสอบการทำงานของเครื่องปรับอากาศเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างทำงานได้อย่างถูกต้อง รักช่างใส่ใจในทุกขั้นตอนการย้ายแอร์ เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องปรับอากาศของคุณจะสามารถใช้งานได้ดีในตำแหน่งใหม่

ควรคำนึงถึงอะไรบ้างก่อนตัดสินใจย้ายแอร์?

ก่อนตัดสินใจย้ายเครื่องปรับอากาศ มีหลายสิ่งที่ควรนำมาพิจารณาเปรียบเทียบ อันดับแรกคือค่าใช้จ่ายในการย้ายแอร์ ซึ่งอาจใกล้เคียงหรือมากกว่าค่าซื้อเครื่องใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเครื่องเก่ามีอายุการใช้งานนานแล้ว ควรพิจารณาถึงสภาพของเครื่องปรับอากาศเดิม หากเครื่องเก่ามากหรือมีปัญหาการใช้งานอยู่แล้ว การซื้อเครื่องใหม่ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่าและประหยัดพลังงานกว่าอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า นอกจากนี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าตำแหน่งที่จะติดตั้งใหม่มีขนาดห้องและระบบไฟฟ้าที่เหมาะสมกับขนาด BTU ของเครื่องเดิม การย้ายแอร์อาจมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบน้ำยาหรือชิ้นส่วนอื่นๆ หากดำเนินการโดยช่างที่ไม่ชำนาญ ดังนั้น การเลือกผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ

รักช่างสามารถช่วยเลือกตำแหน่งติดตั้งใหม่ที่เหมาะสมได้หรือไม่?

รักช่างยินดีให้คำปรึกษาและช่วยลูกค้าในการเลือกตำแหน่งติดตั้งใหม่ที่เหมาะสมสำหรับเครื่องปรับอากาศ.38 ทีมช่างผู้เชี่ยวชาญของเราจะทำการสำรวจพื้นที่ใหม่ และพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดของห้อง ทิศทางของแสงแดด การไหลเวียนของอากาศ และความสะดวกในการใช้งานและการบำรุงรักษา เพื่อแนะนำตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งจะช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและให้ความเย็นสบายอย่างทั่วถึง

รักช่างใช้เครื่องมืออะไรในการทะลวงท่อ หรือลอกท่อตัน ?

เครื่องมือที่ใช้ในการ ลอกหรือทะลวงท่อตัน ที่เรียกกันทั่วไป คือ "งูเหล็ก" หรือบางทีเรียกว่า "เครื่องทะลวงท่อ" โดยเครื่องมือนี้มีลักษณะและวิธีทำงานดังนี้:
• งูเหล็กแบบมือหมุน: เป็นเส้นลวดเหล็กยาว ๆ ปลายด้านหนึ่งจะเป็นเกลียวหรือหัวเจาะ สามารถหมุนได้ด้วยมือ ใช้สำหรับท่อตันขนาดเล็กถึงกลาง เช่น อ่างล้างจาน อ่างล้างหน้า
• งูเหล็กแบบไฟฟ้า: ใช้ระบบไฟฟ้าหมุนสายงูเหล็กให้เจาะและดันสิ่งอุดตันออก เหมาะกับท่อขนาดใหญ่ขึ้น เช่น ท่อระบายน้ำหลัก หรือท่อในอาคารที่ตันหนัก

วิธีการใช้งานงูเหล็กโดยสรุป:
1. สอดสายงูเหล็กเข้าไปในท่อจนถึงจุดที่อุดตัน
2. หมุนด้าม (หรือกดปุ่มเครื่องไฟฟ้า) เพื่อให้หัวเกลียวทะลวงสิ่งที่อุดตัน
3. ดึงสายออกมา แล้วล้างคราบหรือสิ่งสกปรกออก
4. ทดสอบการไหลของน้ำอีกครั้ง
ข้อดีของการใช้งูเหล็ก:
• แก้ไขการอุดตันได้ลึกถึงตัวท่อ
• ไม่ต้องรื้อท่อหรือทำลายผนัง
• ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าการเปลี่ยนท่อ

ระยะเวลารับประกันในการใช้บริการทะลวงท่อหรือลอกท่อตัน?

ระยะเวลาการรับประกันอยู่ 30 วันค่ะ หากเกิดอาการตันซ้ำจุดเดิม เกิดจากสาเหตุเดิมที่แก้ไปแล้ว ไม่รวมกรณีมีสิ่งแปลกปลอมใหม่เข้าไปอุดตันอีก หากเกิดแบบนี้สามารถเรียกช่างทางบริษัทไปดูแลแก้ไขให้ได้เลยค่ะ

สาเหตุที่ทำให้ท่อตันเกิดจากอะไร?

ปัญหาท่อตันเป็นเรื่องที่หลายบ้านต้องพบเจอ ซึ่งมักจะสร้างความไม่สะดวกและส่งผลต่อการ ใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยสาเหตุหลักๆ ของท่อตันสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้:

1. เศษอาหารและไขมันสะสม
ครัวเรือนมักเทเศษอาหารหรือคราบไขมันลงไปในอ่างล้างจานโดยไม่รู้ตัว เมื่อไขมันเย็นตัว จะ เกาะติดตามผนังท่อและสะสมจนทำให้น้ำไหลผ่านได้ยาก

2. เส้นผมและขนสัตว์
ในห้องน้ำ เส้นผมที่หลุดร่วงระหว่างอาบน้ำมักไหลลงไปในท่อและพันกันจนเกิดการอุดตัน โดยเฉพาะเมื่อรวมกับสบู่หรือสิ่งสกปรกอื่นๆ

3. กระดาษทิชชูหรือของใช้ไม่เหมาะสม
การทิ้งกระดาษที่ไม่ย่อยสลายได้ หรือของใช้ในห้องน้ำ เช่น สำลี ผ้าอนามัย ลงในชักโครก อาจทำให้ท่อระบายน้ำอุดตันได้ง่าย

4. ตะกอนดิน ทราย หรือปูน
หากมีการก่อสร้างหรือซ่อมแซมภายในบ้าน บางครั้งอาจมีเศษดินหรือปูนไหลลงท่อ ทำให้เกิด การแข็งตัวและอุดตันภายในระบบระบายน้ำ

5. โครงสร้างท่อที่ไม่เหมาะสม
ท่อที่ติดตั้งผิดมุม ไม่มีความลาดเอียงที่ดี หรือใช้วัสดุที่ไม่ทนทาน อาจทำให้เกิดการสะสมของ เศษต่างๆ จนน้ำระบายได้ไม่ดี

หัฉันสามารถลองแก้ไขท่อตันเบื้องต้นด้วยตัวเองได้อย่างไร?

เมื่อท่อระบายน้ำเกิดการอุดตัน คุณสามารถลองแก้ไขเบื้องต้นด้วยตัวเองได้หลายวิธี วิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้ที่ปั๊มท่อ (Plunger) ปั๊มบริเวณปากท่อระบายน้ำขึ้นลงหลายครั้ง เพื่อพยายามดันสิ่งอุดตันออกไป การเทน้ำร้อนลงในท่อระบายน้ำก็อาจช่วยละลายคราบไขมันหรือสิ่งอุดตันเล็กน้อยได้ การใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำส้มสายชูเป็นอีกวิธีธรรมชาติที่อาจช่วยขจัดสิ่งอุดตันได้ โดยเทเบกกิ้งโซดาลงในท่อ ตามด้วยน้ำส้มสายชู แล้วทิ้งไว้สักพักก่อนราดน้ำร้อนตาม สำหรับท่อในอ่างล้างจาน คุณสามารถลองถอดท่อ P-trap ใต้อ่างออกมาทำความสะอาดเศษอาหารที่อาจติดอยู่ได้ ควรระมัดระวังในการใช้ผลิตภัณฑ์เคมีสำหรับล้างท่อตัน เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและท่อระบายน้ำได้

บริการลอกท่อตันของรักช่างใช้วิธีใดบ้าง?

บริการลอกท่อตันของรักช่างใช้วิธีการที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ เพื่อแก้ไขปัญหาท่อตันทุกชนิด เรามีเครื่องมือที่ทันสมัย เช่น งูเหล็ก (Drain Snake) แบบมือหมุนและแบบมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งสามารถทะลวงสิ่งอุดตันที่อยู่ลึกภายในท่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องทุบหรือรื้อท่อ สำหรับการอุดตันที่เกิดจากคราบไขมันสะสมจำนวนมาก เราอาจใช้วิธีการฉีดน้ำแรงดันสูง (Hydro Jetting) เพื่อชะล้างคราบไขมันและสิ่งสกปรกต่างๆ ออกจากท่อ ในบางกรณีที่จำเป็น เราอาจใช้กล้องวิดีโอขนาดเล็กสอดเข้าไปในท่อเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุและตำแหน่งที่แน่นอนของการอุดตัน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด รักช่างมีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการลอกท่อตันทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นท่อในบ้าน อาคาร โรงงาน หรือสถานประกอบการต่างๆ

ควรทำอย่างไรหากท่อตันบ่อยมาก?

หากท่อระบายน้ำของคุณเกิดการอุดตันบ่อยครั้ง อาจมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้งานที่ไม่เหมาะสม หรืออาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบท่อระบายน้ำเอง วิธีป้องกันท่อตันที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการทิ้งเศษอาหาร คราบไขมัน และสิ่งของที่ไม่ย่อยสลายลงในท่อระบายน้ำ สำหรับท่อในห้องครัว ควรติดตั้งตะแกรงดักเศษอาหารที่อ่างล้างจาน และหลีกเลี่ยงการเทน้ำมันลงในท่อ สำหรับท่อในห้องน้ำ ควรใช้ที่ดักเส้นผมบริเวณท่อระบายน้ำ การล้างท่อระบายน้ำด้วยน้ำร้อนผสมน้ำยาล้างจานเป็นประจำทุกสัปดาห์อาจช่วยป้องกันการสะสมของคราบไขมันได้ หากท่อยังคงตันบ่อยครั้ง ควรปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบระบบท่อระบายน้ำอย่างละเอียด

บริการลอกท่อตันของรักช่างครอบคลุมพื้นที่ใดบ้าง

รักช่างมีบริการลอกท่อตันครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงบางพื้นที่ เรามีทีมช่างที่พร้อมให้บริการในหลายพื้นที่ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว หากคุณต้องการตรวจสอบว่าพื้นที่ของคุณอยู่ในขอบเขตการให้บริการของเราหรือไม่ สามารถติดต่อสอบถามได้โดยตรงผ่านช่องทางโทรศัพท์หรือเว็บไซต์ของเรา เรายินดีให้บริการและให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับพื้นที่ให้บริการของเรา

มีการรับประกันบริการลอกท่อตันหรือไม่?

รักช่างมีการรับประกันคุณภาพของบริการลอกท่อตัน จะมีระยะเวลาการรับประกันงาน 30 วัน เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในผลงาน นับจากวันที่รับบริการ หากลูกค้าพบปัญหาท่อตันซ้ำในบริเวณเดิมภายในระยะเวลารับประกัน รักช่างยินดีที่จะกลับไปตรวจสอบและแก้ไขปัญหาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม รายละเอียดและเงื่อนไขของการรับประกันจะแจ้งให้ลูกค้าทราบก่อนการเข้ารับบริการ

ทำไมต้องล้างเครื่องซักผ้า?

เครื่องซักผ้า แม้จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่ทำความสะอาดเสื้อผ้าของเรา แต่เมื่อใช้งานไปนานๆ ก็จะมีการสะสมของสิ่งสกปรกต่างๆ เช่น คราบผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม เศษใยผ้า ฝุ่นละออง รวมถึงเชื้อราและแบคทีเรียที่มาจากเสื้อผ้า การสะสมของสิ่งสกปรกเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะทำให้เครื่องซักผ้ามีกลิ่นไม่พึงประสงค์ แต่ยังอาจส่งผลต่อความสะอาดของเสื้อผ้าที่ซัก ทำให้ผ้าไม่สะอาดเท่าที่ควร หรืออาจมีคราบสกปรกติดมากับเสื้อผ้า นอกจากนี้ เชื้อราและแบคทีเรียที่สะสมอยู่ในเครื่องซักผ้ายังอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองผิวหนังได้ การล้างเครื่องซักผ้าเป็นประจำจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อสุขอนามัยที่ดี และเพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องให้ยาวนาน

บริการล้างเครื่องซักผ้าของรักช่างมีอะไรบ้าง?

บริการล้างเครื่องซักผ้าของบริษัท รักช่าง มีความหลากหลายและครบวงจร โดยเน้นการให้บริการที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูง ทีมช่างที่มีประสบการณ์จะดูแลการล้างเครื่องซักผ้าอย่างละเอียด เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการที่ดีที่สุด การล้างเครื่องซักผ้าจะช่วยแก้ปัญหาซักผ้าไม่สะอาดและมีกลิ่นอับ ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายคนพบเจอในชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้ รักช่างยังมีการรับประกันหลังการบริการเป็นระยะเวลา 30 วัน เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพของบริการที่ได้รับ การจองคิวสำหรับบริการล้างเครื่องซักผ้าก็ทำได้ง่าย โดยมีทีมงานพร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือตลอดเวลา การให้บริการที่รวดเร็วและตรงต่อเวลาก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ลูกค้าไว้วางใจในบริการของรักช่าง

หากพื้นที่คอนโดมีขนาดจำกัด ทางบริษัทมีแนวทางหรือวิธีการอย่างไรในการนำเครื่องซักผ้ามาดำเนินการล้าง?

ในกรณีที่คอนโดมีพื้นที่จำกัดหรือไม่สะดวกสำหรับการล้างเครื่องซักผ้าในสถานที่ ทางบริษัทของเราจะให้บริการยกเครื่องซักผ้ากลับมาล้างที่ศูนย์บริการค่ะ เพื่อให้สามารถทำความสะอาดได้อย่างละเอียดล้ำลึกด้วยอุปกรณ์เฉพาะทาง โดยทีมช่างของเราจะดำเนินการถอด ยก และติดตั้งคืนให้ครบถ้วน พร้อมดูแลความปลอดภัยของเครื่องซักผ้าและพื้นที่ของลูกค้าเป็นอย่างดี ลูกค้าจึงสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่ได้มาตรฐานและเครื่องซักผ้าสะอาดเหมือนใหม่ค่ะ

หากเครื่องซักผ้าเกิดการชำรุดหรือเสียหายหลังจากการใช้บริการ ทางบริษัทมีนโยบายรับประกันหรือการดูแลหลังการบริการอย่างไร?

ทางบริษัทมีนโยบายรับประกันคุณภาพการบริการอย่างชัดเจน
หากเครื่องซักผ้าเกิดการชำรุดหรือเสียหายจากการให้บริการของเรา ภายใน 30 วัน บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบและซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ทั้งนี้เงื่อนไขการรับประกันจะครอบคลุมเฉพาะความเสียหายที่เกิดจากการบริการโดยตรง ไม่รวมถึงการเสื่อมสภาพจากการใช้งานตามปกติ หรือความเสียหายจากการใช้งานผิดวิธี เรามุ่งมั่นให้บริการด้วยความรับผิดชอบ และพร้อมดูแลลูกค้าหลังการให้บริการอย่างเต็มที่ หากมีปัญหาเพิ่มเติมสามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าได้ตลอดเวลาทำการค่ะ

ค่าบริการล้างเครื่องซักผ้าราคาเท่าไหร่?

ประเภทเครื่องซักผ้า ขนาด (กก.) ราคา (บาท)
ฝาบน น้อยกว่า 15 กก. 1,900
16-19 กก. 2,000
20-22 กก. 2,100
23-24 กก. 2,300
ฝาหน้า น้อยกว่า 15 กก. 3,000
มากกว่า 16 กก. 3,500

ราคานี้รวมค่าแรงและค่าอุปกรณ์เรียบร้อย ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง ทีมงานจะทำความสะอาดพื้นที่หน้างานให้เรียบร้อยก่อนส่งมอบเครื่อง และมีการรับประกันคุณภาพงานหลังการล้าง เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในบริการ

บริการของเราครอบคลุมพื้นที่ กรุงเทพฯ, นนทบุรี, สมุทรปราการ และปทุมธานี

การล้างเครื่องซักผ้าจำเป็นต้องถอดเครื่องหรือถอดถังออกมาล้างหรือไม่?

โดยปกติแล้ว การทำความสะอาดเครื่องซักผ้าไม่จำเป็นต้องถอดเครื่องหรือถอดถังออกมาล้างทุกครั้ง หากเป็นการดูแลรักษาเป็นประจำ เช่น การทำความสะอาดคราบผงซักฟอกหรือการกำจัดกลิ่นอับ สามารถใช้วิธีล้างถังซักผ้าอัตโนมัติ (โปรแกรมทำความสะอาดถัง) ร่วมกับน้ำยาทำความสะอาดเครื่องซักผ้าได้ ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานและลดการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย

อย่างไรก็ตาม หากเครื่องซักผ้าเริ่มมีปัญหา เช่น มีกลิ่นเหม็นรุนแรง ซักแล้วเสื้อผ้าไม่สะอาด หรือมีคราบสกปรกหลุดออกมาเป็นจำนวนมาก อาจจำเป็นต้องทำความสะอาดอย่างล้ำลึก ซึ่งในกรณีนี้ต้องถอดถังซักออกมาล้าง หรือแม้กระทั่งรื้อเครื่องบางส่วน โดยควรให้ช่างผู้ชำนาญดำเนินการ เพื่อความปลอดภัยและป้องกันความเสียหายต่อเครื่องซักผ้า

สรุปคือ หากเป็นการดูแลทั่วไป ไม่จำเป็นต้องถอดเครื่องหรือถอดถังออกมาล้าง แต่หากมีสิ่งผิดปกติหรือคราบสกปรกสะสมมาก การถอดถังล้างโดยมืออาชีพก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสมค่ะ

ควรล้างเครื่องซักผ้าบ่อยแค่ไหน?

ประเภทการล้าง ความถี่ที่แนะนำ
ล้างถังซัก (deep clean) ทุก 1–3 เดือน
ล้างภายนอก (ฝา, ปุ่ม, ตัวถัง) ทุกครั้งหลังใช้งาน หรือทุกสัปดาห์
ล้างช่องใส่ผงซักฟอก/น้ำยาปรับ ทุก 1–2 สัปดาห์
ล้างตัวกรองสิ่งสกปรก/เศษผ้า ทุกเดือน หรือเมื่อซักแล้วน้ำไม่สะอาด

🚨 สัญญาณที่ควรล้างเครื่องซักผ้า

• มีกลิ่นอับแม้ผ้าจะสะอาด
• ผ้าหลังซักไม่หอม หรือมีคราบสกปรกติดอยู่
• น้ำระบายออกช้า
• มีคราบดำหรือเชื้อราบริเวณถังซักหรือช่องใส่ผงซักฟอก

อีกวิธีที่แนะนำคือควรเรียกช่างที่มีความสามารถและมีความรู้เกี่ยวกับเครื่องซักผ้าเข้าไปทำการล้างถอดล้างถังซักผ้าทุกๆ 2 ปีหรือหากมีการใช้งานทุกวันควรทุกๆ 1 ปี คะ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานของคุณลูกค้า